ต่อจากตอนที่แล้วหลังจากจับได้ว่าแฟนมีชู้ จับได้แบบ Realtime ด้วย Android TV ผมก็ค่อนข้างเสียใจคนคบกันมา 17 ปีเลิกกันโดยที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะทุกอย่างจำนนต่อหลักฐาน ช่วงนั้นปลายเดือนธันวาคม 2557 ก็ดื่มเหล้าเบียร์เกือบทุกวัน โดนด่านตำรวจไปที่หนึ่งก็ยังไม่เข็ด ก็ออกมาดื่มต่อ เป็นจังหวะที่เจอกลุ่มเพื่อนตอนอนุบาลจนถึงประถมเข้ามารวมตัวกันพอดี ทาง Facebook และ Line ก็มีเพื่อนคนหนึ่งตั้งกลุ่มใน Line ขึ้นมาว่า อนุบาล อิอิ ติดใจกับคำลงท้ายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนคืนวันที่ 31 ธันวาคม คืนข้ามปี 58 ก็มีเพื่ออนุบาลที่ไม่ได้เจอกันมานาน มานั้งกินเป็นเพื่อนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน เธอดั้งด้นหนังแท๊กซี่มาคนเดียวจากบ้านที่อยู่แถวบางใหญ่ เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 1 เธอก็ไปทำบุญขึ้นปีใหม่กับเพื่อนชายอีกคน ก็งงเล็กน้อยแต่ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะตอนนั้นยังไม่คิดจะเริ่มใหม่กับใคร กลัวเพื่อเขากิ๊กกั๊กกันอยู่เดี๋ยวจะมีปัญหากันซะเปล่าๆ
คืน 31 เราก็เลยวางแผนกันว่าจะนัดเลี้ยงรุ่นอนุบาลกันขึ้น เป็นวันที่ 2 ต้นปีรวดเร็วแบบฉับพลัน แต่คราวนี้ผมไม่กล้าขับรถไปเพราะกลัวเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์เหมือนคราวที่แล้ว เลยนั่ง Taxi จากหมู่บ้านไปแวะรับเธอระว่างทางถนนตรงข้ามทางเข้าซอยหมู่บ้านของเธอ
หลังจากนั้นเราก็มี Party กลุ่มย่อยๆจากเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ว่างมาพร้อมกันได้ จนวันที่ 23 เราไปกินเลี้ยงรวมกลุ่มกันอีกครั้ง โดยนั่ง Taxi ไปแล้วกลับ เป็นคืนแรกที่ผมนอนค้างที่บ้านเธอโดยไม่ได้มีอะไรกัน แล้วตอนเช้าก็กลับบ้าน เราจึงสนิทกันมากขึ้น ช่วงนั้นผมกำลังจะออกรถอีกคัน แล้วกะว่าจะขายอีกคันทิ้งแต่เสียดายจึงไม่ขาย ผมก็ไปหาเธอที่บ้านบ่อยขึ้น ไปเห็นกระเบื้องห้องน้ำแผ่นหนึ่งมันหลุดจึงไปหาซื้อของมาซ่อม เพระาปูนมันหลุดเศษทราบจะออกมาเต็มพื้นห้องน้ำ
ผมพาเธอไปเที่ยวที่ๆผมเคยพาแฟนเก่าไป ไปเหมือนทุกทีที่อยากไป บางที่ก็เป็นที่ๆเธอเคยไปกับแฟนเเก่ามา ก็เป็นวันที่ 7 กพ หลังจากไปล่องเรือทำบุญไหว้พระมา วันนั้นเราก็ตกลงเป็นแฟนกัน และอยู่ด้วยกันที่บ้านของเธอ ผมก็ขับรถวนไปมา 3 บ้านระหว่างบ้านแม่ ตกวันละ 30 กิโล เช้ามาก็ออกมาทำงานบ้านที่เพิ่งซื้อมาใหม่ หรือไม่ก็ไปบ้านแม่ ตกเย็นก็วิ่งกลับไปนอนที่บ้านเธอ เป็นอย่างนี้ประจำทุกวัน จนชาวบ้านแถวนั้นเห็นและรู้กันทั่วไป ผมขับรถยนต์ไปทำงาน เธอขี้มอเตอร์ไซต์ไปทำงานในเมือง เพราะมันสะดวกกว่า เราก็อยู่กันด้วยดีปกติ เพราะผมเองก็เพิ่งจะอกหักมามาดๆ จนเริ่มเดือนเมษายนยอดขายสินค้าผมเริ่มตกลง ผมดูลักษณะเธอเริ่มเปลี่ยนไป คำพูดคำจาการกระทำการดูแลเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง จนคืนวันที่ 2 พค. เราทะเลาะกันเรื่องเธอพูดดูถูกผม จนเธอขี้เมอเตอร์ไซต์ออกไปนอนบ้านเพื่อน ผมตามออกไปบ้านพ่อเธอแต่ไม่เจอจึงหลับไปนอนที่บ้าน ตอนเช้าอีกวันก็รีบกลับไปที่บ้าน แต่เธอล็อคบ้านด้านในไม่ให้เข้า และเตรียมถุงเสื้อผ้าเอาไว้ให้ผมหน้าบ้าน แต่ดันลืมลูกกุญแจเอาไว้ที่ประตูรั้วด้านนอก ผมเลยไขเข้าไปและพูดคุยปรับความเข้าใจกันใหม่
จนมาเดือนสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันเดือนกรกฎาคม วันที่ 2 ผมชวนเธอมาบ้านผม แต่เธอไม่ค่อยอยากมาบอกว่ามาแล้วมันไม่สะดวกสบายเหมือนที่บ้านเธอ โดยบอกว่าจะจามไปที่หลังตอนบ่ายๆเย็น พอมาถึงตอนเย็นๆซักพัก นั่งคุยกันอยู่เพียงแค่ไม่กี่นาทีก็ทะเลาะกัน ในเรื่องที่ว่าไม่ให้ผมพูดคำว่าซื้อ ผมก็กำลังวางแผนคุยเพลินๆก็อารมณ์เสีย จากนั้นเธอก็บอกถ้าเป็นแบบนี้จะกลับแล้วนะ ก็เดินลงไปเตรียมขี่มอเตอร์ไซต์กลับบ้าน ผมตามลงไปเธอก็พูดออกมาว่าต่างคนต่างอยู่ละกัน จากนั้นก็ขี้มอเตอร์ไซต์กลับไปเลย ผมตามกกลับไปเธอล็อคประตูหน้าบ้าน ผมปีนเข้าไปด้านใน เธอยังไม่ได้ล็อค เหมือนเดิมเธอเก็บข้าวของเสื้อผ้าผมรอไว้อยู่แล้ว ผมจึงเข้าไปพูดคุยพยายามคุยปรับความเข้าใจกับเธออยู่ถึงตี 1 ก็ไม่สำเร็จ เธอให้เหตุผลว่าเธอไม่อยากลำบาก อยู่กับผมแล้วไม่สบาย เราคงรักกันไม่มากพอ ผมหยิบโทรศัพท์เธอมาดู chat line ของเธอช่วงที่เธอเผลอ คนที่ชอบส่งมาหาเธอทุกเช้า และตลอดทั้งวัน โดยผมสังเหตุมาสักพักหนึ่งแล้ว จนข้อความล่าสุดมีส่งรูปโป๊มาให้เธอผิดตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เลย แล้วก็ขอโทษคุยกันต่อตามปกติ จากนั้นก็เป็นฝ่ายเธอที่เริ่มทักไปหาตอนเช้าบ้าง ตอนเย็นก็คุยกันตลอด ตอนผมถามเธอทำไมเขาต้องส่งรูปโป๊มาด้วย เธอรีบหยิบเอาโทรศัพท์คืนไป แล้วก็ไม่พูดอะไร เธอก็บอกไม่มีอะไร ระหว่างวันก็มีส่งรูปดอกไม้มาให้ตลอดทั้งวัน ผมรู้แค่ว่าเป็นหัวหน้าเก่าเธอที่ทำงานปจัจจุบันชื่อ Joke ศรีรัตน์
อีกวันเธอขี้มอเตอร์ไซต์เอาเสื้อผ้ามาให้ผมที่บ้าน แต่ผมไม่อยู่ออกไปซื้อของในเมือง พอซื้อเสร็จรีบตามเข้าไปหาเธอที่บ้านเธอก็ล็อคประตูอีกเหมือนเดิม ผมจึงเอาของที่ซื้อมาฝากว่างทิ้งเอาไว้แล้วกลับบ้านไป อีกวันผมก็อยู่บ้านผมปกติเพราะไม่กล้าไปง้อแล้วอายชาวบ้านแถวนั้นมาก อยู่มา 6 เดือนแต่อยู่ดีๆไม่ให้เข้าบ้าน จากนั้นก็มีสายจากตำรวจโทรเข้ามาให้ผมไปเจอที่ สภ.บางใหญ่ เธอไปแจ้งความว่าผมข่มขู่ ซึ่งจริงๆแล้วเป็นแค่พูดเล่นๆเฉยว่าถ้าเธอล็อคบ้านไม่ให้เข้าผมก็จะล็อคข้างนอกไม่ให้เธอออกแค่นั้นเอง คุณตำรวจก็อ่านแล้วจึงไม่รับแจ้งความ แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะไม่ขออยู่กับผมต่อ ทั้งๆที่ผมเองก็ยังทำใจไม่ได้ พยายามหาทางที่จะง้อขอคืนดีให้ได้ เรื่องของเรื่องที่ทะเลาะกันครั้งหลังสุดก็มีเท่านี้เอง คนอยู่กินนอนด้วยกันมาอยู่ดีๆไปแจ้งความให้เพื่อไม่ให้อีกคนอยู่ด้วย นี่มันใช้ความรักเหรอ
ระหว่างอยู่ด้วยกันมีความสุขไหม มีความสุขมากผมไม่ได้แคร์ว่าเธอจะผ่านอะไรมาบ้าง เพราะเหตุการณ์ที่ผมเจอมามันทำให้ผมมองข้ามทุกอย่างไปหมด ผมจึงพยายามทำมันให้ดีที่สุด แต่หลังๆดูเริ่มจะพูดอะไรไม่เกรงใจ พอเห็นรายได้เราไม่แน่นอนมั่นคง จึงเกิดเรื่องพร้อมที่จะเลิกกันได้ตลอดโดยที่ไม่แคร์อะไร แรกๆเราก็ไปเดินเที่ยว Shopping กันปกติแต่เวลาจะซื้ออะไรผมก็ค่อนข้างซื้อยากอยู่เพราะต้องบริหารเงินดีๆ เธอเองก็ช่วยผมซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านเราแบ่งกันคนละครึ่ง เธอกดเงินมา 20,000 จะเอามาให้ผมติดแก๊สรถคันใหม่ ผมบอกยังไม่ต้องยังจะไม่ติดตอนนี้ เงินก่อนนั้นก็หมดไประหว่างที่เรากินเที่ยวด้วยกัน เสื้อผ้าเธอขนซื้อมาให้ผมเยอะมาก จนตอนทะเลาะกันครั้งแรกผมต้องหน้าด้านกลับมาง้อเธอ เพราะคิดถึงสิ่งที่เธอทำให้ เธอก็ล็อคประตูไม่ให้เข้าอีกเหมือนกันแต่พอดีลืมลูกกุญแจเอาไว้ผมเลยเข้าไปได้ ไม่งั้นคงเลิกกับผมตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปนอนกันเหมือนต่างคนต่างนอนจนผมสงสัย ไม่เหมือนคู่รักที่คบกันใหม่ๆเพียงแค่ไม่กี่เดือน ตกลงนี่มันใช่ความรักจริงๆหรือเปล่า
จากนั้นผมก็ตามไปง้อ ไปหาเธอที่บ้านอีกหลายรอบ แอบปีนเข้าไปดูข้างหน้าต่าง เห็นเธอนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างสบายใจ พอเธอรู้ว่าผมมาก็ปิดประตูขึ้นบ้านนอน โทรแจ้งตำรวจ ผมไม่รู้ว่าเธอแกล้งไม่เข้าใจว่าการทีคนเราคบกันมาอยู่กันมาทุกวัน แล้วมาทำแบบนี้มันแกล้งกันทรมานกันชัดๆ จนในที่สุดเธอก็ไม่กลับมานอนที่บ้าน เธอหายไป ผมก็เหลือทางเดียวคือโทรศัพท์มือถือ และก็อีกเช่นกันเบอร์มือถือเหล่านั้นก็ติดต่อไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่ผมโทร 0933790624 ตอนเย็นๆหลังเลิกงาน เป็นเสียงผู้ชายรับ ถามผมว่าเป็นใคร ผมบอกเป็นแฟนเธอ เขาบอกว่าเธอลืมมือถือเอาไว้ในห้องน้ำ ที่เดอะมอลล์บางกะปิ เดี๋ยวเขาจะเอาไปฝากไว้ที่ยาม ให้ผมไปเอา แล้วเดี๋ยวจะโทรบอก จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ก็เหลือเพียงเบอร์ที่ทำงานเมืองไทย ผมโทรไปพอรู้ว่าเป็นผมก็จะว่างหูทันที ทั้งๆที่บ้างทีเป็นธุระจำเป็นเรื่องงาน เรื่องของเกี่ยวกับบ้านเธอ เธอก็ไม่สนใจ ไม่รู้จิตใจเขาทำด้วยอะไร มันช่างวิธีปฎิบัติการที่ทรมานใจมากกับคนที่คิดว่ารักกัน
- 16 Aug 2015 ผมไปหาเธอที่บ้านพ่อฝั่งธนวัดขุนจันทร์ เธอกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่หลังบ้านริมคลอง ผมเรียกเธอ เธอรีบหลบเดินเข้าไปในบ้านได้ยินเสียงดังมาจากในบ้าน "ไอ้เฮี้ยนี่มาอีกแล้ว" ผมยืนรออยู่ตีนสะพาน ในใจรู้สึกดีใจมากไม่ได้เจอมานานเกือบ 2 เดือน เธอออกมาจากบ้านพร้อมร่มในมือ กระหน่ำฟาดผมไม่ยั้ง กี่ทีไม่รู้นับไม่ได้ ผมยืนนิ่งหันหลังให้ ไม่ได้ตอบโต้อะไร เธอฝาดโดนบริเวณเป้ที่สะพายหลังจนร่มหัก แล้วก็วิ่งร้องไห้ออกไปหน้าวัด ตะโกนเรียกให้คนช่วย นั้นซีนผมชัดๆ ด้วยความเสียใจแต่ก็ยังรักอยู่ ผมนั่งเล่าเหตุการณ์ให้พี่อ๊อดที่เป็นอาของเธอฟัง ผมเล่าไม่ค่อยออกพูดเสียงระส่ำเพราะมันอยากจะร้องไห้เสียมากกว่า วันนั้นพี่เขาแนะนำให้ผมกลับบ้านไปก่อน
- 19 Aug 2015 คืนนี้ ผมตรวจสอบพบเป็นครั้งแรกว่ามอเตอร์ไซต์เธอจอดทิ้งไว้ที่บริษัท ผมกระวนกระวายใจมากกลัวว่าเธอจะไปค้างที่ไหน ค้างกับใคร ด้วยความรัก คิดถึงและเป็นห่วง
- 20 Aug 2015 ผมจึงโทรไปหาเธอที่ทำงาน แต่เช้าอ่อนวอนให้เธอคุยกับผมหน่อย ไม่งั้นผมจะไปหาที่บริษัท จนเธอตัดสินใจลางานครึ่งวัน บอกให้ผมไปคุยกับพ่อเธอที่วัด ผมติดงานเลยเข้าไปได้บ่ายๆ แต่ไปถึงไม่ได้คุยกับพ่อเธอหรือกับเธอ คุยกับคนอื่นที่เป็นอาเธออีกคนซะเป็นส่วนใหญ่ เธอบอกผมเธอมีคนใหม่ไปแล้ว ให้ผมปล่อยเธอไปซะเถอะ ผมถามตั้งแต่เมื่อไร นี่เราเพิ่งไม่เจอกันแค่เดือนกว่าเอง ผมรู้สึกหดหู่ในใจมาก น้าเธอให้เธอเข้าบ้านไป ปล่อยให้ผมยืนคุยกับอาเธอต่อ เขาก็บอกกรูก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกันเว้ย ซึ่งเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมขี่มอเตอร์ไซต์กลับออกมา กำลังจะข้ามสะพานวัดนางชี เพื่อนเธอที่เป็นแฟนเก่าสมัยเรียนตามมาขอคุยด้วยกับผม ผมงงจะคุยทำไม มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง เขาก็บอกมันก็เป็นของมันแบบนี้ไปเรื่อยๆ เขาก็เป็นเหมือนกับผมเหมือนกัน ผมขี่มอเตอร์ไซต์กลับแบบเหมือนจะสิ้นหวัง
- 26 Aug 2015 ผมซื้อบะจ่างตลาดกองปราบไปให้ โดยฝากไว้ที่วัด เหมือนที่เคยซื้อให้กินตอนอยู่ด้วยกัน
- 27 Aug 2015 ก่อนวันสาทจีน 1 วัน ผมจำได้พี่สาวเธออยากได้ตุ๊กต้า ฮก ลก ซิว ผมคิดว่าเป็นจังหวะดีจึงรีบบิดมอเตอร์ไซต์ฝ่าสายฝนไปซื้อที่ปทุมธานี แล้วแวะซื้อบะหมี่จอมพลัง เอาไปฝากไว้ให้ที่วัดวันรุ่งขึ้นจะได้ทันไหว้เจ้าพอดี
- 29 Aug 2015 ผมซื้อก๋วยจั๊บที่ร้านบางใหญ่ซอยบ้านเธอ เป็นร้านที่เราออกมากินด้วยกันครั้งแรกตอนมาค้างที่บ้านเธอ แล้วบิดเอาไปให้ที่วัด
- 30 Aug 2015 เธอมา สภ.บางใหญ่ กับพี่สาว พร้อมพ่อ ตำรวจที่สภ.โทรตามให้ผมออกไปคุย ผมก็ยังงงไม่รู้จะคุยอะไร เข้าไปผมเจอแต่เธอกับพี่สาวคนกลาง เขาบอกไม่ให้ผมไปตามเขา เดินผ่านตรงสะพาน หน้าบ้านก็ไม่ได้ ผมถามแล้ววันนั้นทำไม่ต้องตีเราขนาดนั้นด้วย เธอบอกทำไปเพราะบันดาลโทสะ ไม่ผิด ไม่เป็นไร ด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเลย เธอบอกต่อให้ผมทำดียังไง เธอก็ไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่ ณ เวลานั้นผมก็ยังมีกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะทำให้เรากลับมารักกันเหมือนเดิมให้ได้
- 31 Aug -1 Sep 2015 เธอไม่กลับบ้านจอดมอเตอร์ไซต์ทิ้งไว้ที่บริษัททั้ง 2 คืน หลังจากนั้นกลับบ้านพ่อตลอด หลังจากที่แม่เสีย ปกติถ้าแม่เธอยังอยู่เธอแถบจะไม่กลับไปนอนบ้านพ่อเลย
- 16 Sep 2015 เธอกลับมาเปิดเบอร์โทรศัพท์เบอร์เดิมที่ใช้สมัยยังคบกันอยู่เป็นครั้งแรก หลังจากปิดไปเมื่อวันที่ 24 Jul 2015 ที่เอาผู้ชายมารับสายแทน ผมโทรจนเธอปิดเบอร์นี่ไปอีกครับ
- 20 Sep 2015 พ่อเธอโทรมาหาผม โดยบอกว่ากดผิด ผมตรวจสอบกลับพบว่าเป็นเบอร์พ่อเธอจริงๆ จะด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ตาม ผมตกใจเล็กน้อยเพราะตอนนั้นผมอยู่ตลาดกรองปราบ ที่วัดพระพิเรนทร์ เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งลงไหว้หลวงพ่อดำในโบสถ์พร้อมสวดคาถาครบ 9 จบ ทำเอาผมอึ้งไปเลย จากที่จะกลับบ้าน เลยแวะไปให้อาหารปลาที่วัดขุนจัทร์ต่อ
- 22 Sep 2015 เธอลางานไปหาหมอ และกลับบ้านบางใหญ่เป็นวันแรก หลังจากที่หนีผมไปเป็นระยะเวลาเกือบๆ 2 เดือน
- 23 Sep 2015 เอาสติกเกอร์ 7 ที่เก็บมาทั้งหมดตั้งแต่เราแยกกันอยู่ไปทิ้งไว้ให้ที่รถที่ทำงาน เพราะเธอชอบ อะไรก็ตามที่เป็นส่วนลด คูปอง ถ้าเธอได้ใช้แล้วเธอจะฟินมาก เธอจึงรู้ว่าผมยังตามเธออยู่ จึงหนีกลับไปบ้านพ่ออีกครั้ง
- 26 Sep 2015 เธอกลับไปนอนบ้านบางใหญ่อีกครั้ง หลังจากไปซื้อของตลาดกองปราบ เป็นครั้งแรกที่ผมตรวจสอบได้ว่าเธอไปเดินตลาดกองปราบ โดยที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยไปมาตลอดที่แยกกันอยู่ ซึ่งวันนี้เองที่ผมไปงานศพพ่อรุ่นน้องที่สุพรรณพอดี และรีบกลับมาบิดมอเตอร์ไซต์ไปหาเธอตอนตี 3
- 28 Sep 2015 วันของจุดเปลี่ยนสำหรับผม ผมซื้อของตลาดกองปราบเสร็จ ก็ขี่ไปหาเธอที่บริษัท รอจนถึงตอนเย็นเห็นเธอเลิกงาน ขี่กลับออกไป ผมก็กำลังจะบิดตามออกไป แต่ตรวจจับสิ่งผิดปกติได้ รถมอเตอร์ไซต์ผมดูเเหมือนๆจะคันเร่งค้างผมตัดสินใจ จอดดูก่อนจะบิดออกมาจากตึก ตอนนั้นช่วงหัวค่ำละค่อนข้างมืด ก็บิดไปบิดมาก็ยิ่งค้าง ค้างจนรอบเครื่องพุ่งขึ้นไปจนสุด จนต้องดับเครื่อง ก็พอดีมีพี่ๆแถวนั้นมาช่วยดูเอาไฟหน้ารถมาส่องให้ ปรากฎพบว่าฝาคาร์บิวหลุดออกมา ทำให้สายคันเร่งค้าง โชคดีที่ผมตรวจเจอก่อนที่จะขี่ไปเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง ผมย้อนกลับไปจำได้วันที่ 15 May 2015 วันนั้นเธอกลับมาจากที่ทำงานเล่าให้ฟังว่า ทะเลาะกับน้องที่ทำงานมา ด่ากันเสียงดังโวยวายทั่วทั้ง Office ส่วนผมเองก็มีรถขับปาดหน้าก่อนกลับรถใต้สะพานผมขับปาดกลับจนมาเจอกันที่หน้าบ้าน มาบอกว่าขับแบบนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าผมก็บอกผมก็ขับเเหมือนที่คุณขับนะแหละ https://www.youtube.com/watch?v=Hqn8dFte408 เหมือนดวงเราจะคล้ายกัน เช้าวันรุ่งขึ้นมีรายการส่งของที่ต้องไปเอาของที่บ้านใหม่ผมมาส่ง ซึ่งเราตื่นค่อนข้างจะสาย ผมเลยเสนอว่าจะเลื่อนไปส่งวันจันทร์ แต่เธออยากเคลียร์ให้จบ เราจึงขี่มอเตอร์ไซต์ไปยังบ้านที่ผมเพิ่งซื้อใหม่ และเราเริ่มซื้อของเข้าบ้านด้วยกันแล้ว ตอนนั้นผมยังขี่มอเตอร์ไซต์ไม่คล่อง ค่อยๆไปเรื่อยๆ ออกถนนใหญ่ด้วย แต่ผมสัมผัสได้จากสัญชาตญาณว่ามอเตอร์ไซต์เธอวันนี้แกว่งๆแปลกๆ จนเอยปากทักระหว่างทาง แต่ในใจก็คิดว่าเมื่อวานตอนหัวค่ำเธอยังเพิ่งจะขี่กลับบ้านมาเองไม่น่ามีปัญหาอะไร พอเลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้าน ผมกำลังจะเทโค้งขวาระหว่างทางรถก็เกิดการเซไถล่เกือบจะล้ม โชคดีที่ผมเอารถได้อยู่ เราจึงไม่เป็นอะไรกันเลย เอาไปตรวจสอบปรากฎว่ายางไม่รั่วเหมือนว่าจะโดนปล่อยลมยาง แต่ปล่อยแบบค่อยๆให้มันซึมออกมา แต่สรุปไม่ได้ว่าศรัตรูของใครของมึงหรือว่าของกรู เย็นนั้นช่วงบ่ายเราก็ถกเถียงกันถึงเรื่องนี้ เธอเล่าให้ผมฟังอีกว่ามันยังมีวิธีอื่นอีกหากจะเล่นกันให้รุนแรงกว่านี้ อาทิเช่นปล่อยนมหนู เอากาวตราช้างหยอดรู้กุญแจ ผมจำได้ขึ้นใจ แล้วสิ่งที่เกิดกับผมตอนนี้ละ
- 29 Sep 2015 ผมโทรไปถามเธอถึงเหตุการณ์ที่ผมเพิ่งเจอะมาเมื่อวาน ว่าใช่ฝีมือเธอเป็นคนทำหรือเปล่า ผมย้ำชัด ว่ามันอัตรายถึงตายได้เลยนะ แต่เธอก็ไม่สนใจ รับสายพอได้ยินว่าเป็นผมก็วางหูทันทีเหมือนทุกครั้งที่ผมโทรไปหา และแล้วเย็นวันนี้ มอเตอร์ไซต์เธอก็จอดอยู่ที่ทำงาน ข้ามคืนไปถึงคืนวันที่ 30 Sep 2015 และหนีกลับไปนอนบ้านพ่อเหมือนเดิม สร้างความกังขาในเหตุการณ์และไม่มีการปฎิเสธหรือชี้แจงอะไรทั้งนั้น ในเหตุการที่อันตรายถึงชีวิต
- 10 Oct 2015 เธอย้อนกลับมานอนที่บ้านบางใหญ่อีกครั้งจนเกือบจะทุกวัน เป็นที่ผิดสังเกตุ หรือพยายามจะกลบเกลือนอะไรบางอย่าง แต่ทุกครั้งที่กลับบ้านบางใหญ่ เธอจะนำรถมอเตอร์ไซต์ของเธอเข็นเข้าไปเก็บไว้ในบ้านหน้าทีวีทุกครั้ง
- 23 Oct 2015 เราเจอกันโดยบังเอิญที่ตลาดกองปราบบริเวณลานจอดมอเตอร์ไซต์ ผมรอจนเธอกลับมาที่รถ แล้วหยุดเธอเอาไว้ให้คุยเรื่องที่รถคันเร่งค้างก่อน เธอไม่พูดไม่ฟังเสียงใดๆทั้งนั้น ชกผมเข้าที่บริเวณหน้า ผมไม่ตอบโต้ใดๆ จากนั้นเราก็ยื้อยุดชุดกระชากไปมาทั้งคนและมอเตอร์ไซต์ จนกระจกมองข้างเธอแตก พอดีผมจับแรงไป เธอร้องเสียหลง หือ...กระข้างกรูแตกเล๊ย...เธอกัดผมที่แขนจนเป็นรอยฟันขึ้นครบทุกซี่มี่กระชากเล็กน้อย แต่ดีที่ผมใส่ปอกแขนอยู่ ซักพัก รปภ มาดู ถามว่ามีอะไรกันผมก็เล่าสิ่งที่ผมเจอให้ฟัง ซักพักตำรวจก็มา ตำรวจบอกให้ปล่อยเธอไปก่อน ผมก็เลยปล่อยไป
- 25 Oct 2015 เธออยู่บ้านบางใหญ่ ผมขี่ไปซื้อก๋วยเตี่ยวปิ่นโตมาฝากตอนเที่ยง ตอนเย็นแวะไปดูก็ยังวางอยู่ที่เดิม
- 26 Oct 2015 รีบไปที่ทำงานเธอ เพื่อที่จะรีบไปเปลี่ยนกระจกมองข้างให้ เพราะว่าดึกๆเธอขี่กลับจะมองลำบาก เพราะสายตาสั้นต้องใส่แว่น แต่รุ่นนี่เขาเลิกผลิตไปแล้ว แถมเป็นชุดแต่งด้วย ผมจำน้ำเสียงเธอตอนเห็นกระจกแตกได้แล้วรู้สึกผิดและสงสารเลยโทรหาไปหลายๆที่ ก็ไม่มี สรุปสุดท้ายคืดต้องตัดกระจกใส่ใหม่ มีที่ดียวที่หาเจอตอนนั้นและชัวร์ที่สุดว่าจะเสร็จทันเย็นวันนั้นก็ที่ ซอยเอกชัย 94 ผมเลยรีบบิดไปทำแล้วกลับมาเปลี่ยนให้ทันที แต่วันนั้นเธอก็ไม่กลับบ้านจอดมอเตอร์ไซต์ทิ้งไว้ 2 คืนจนถึงวันที่ 27 Oct 2015 - 29 Oct 2015 ผมไปหาที่บางใหญ่ตอนหัวค่ำ ปกติเธอจะนั่งนิ่งดูทีวี วันนี้มันคึกผิดปกติ เปิดม่านหน้าต่างเอามือถือออกมาถ่ายรูปผม แล้วทำหน้าตาประมาณว่าเย้อหยัน
- 31 Oct 2015 ไปหาที่บ้านบางใหญ่ตอนหัวค่ำ คราวนี้เธอนึกได้ว่าข้างบ้านมีไฟอยู่ดวงหนึ่งก็เลยเปิดไฟ ผมอยู่ซักพักก็สังเกตุเห็นพฤติกรรมคนตรงข้ามบ้านเธอแปลกๆมายื่นเฝ้ามองผมตลอด แต่ก่อนจะมาเดินวิ่งออกกำลังหน้าบ้านเธอประจำ เมียแกเห็นคงดีใจน่าดูละ ตอนแรกๆเธอบอกชอบ Line มาหาเธอบ่อยๆ พอหลังๆผมไปอยู่บ้านเธอดูแกจะวิ่งน้อยๆลงไปนะผมว่า พอผมกับเธอทะเลาะกันนี่ตรงนั้นเงียบเลย ซักพักตำรวจก็มา ผมคุยกับตำตรวจอยู่ดีๆ ก็มีเคร่งเดรียดอยู่บ้าง มาบอกว่าผมเฉไฉไปนู้นไปนี่แต่ผมก็รับฟังนะ ผมก็บอกมันยังไม่ดึก เดี๋ยวดึกผมก็กลับเอง ผมก็เล่าผมมาตามมันเพราะอะไร แต่แกก็ยังไม่ค่อยฟังผมนะ แต่ก็คุยกันปกติ ซักพัก รปภ ที่เดินตามหลังตำรวจมาตอนแรก ก็เริ่มเอะอะโวยวายอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ท้าผมชก ผมต่อย เมิงจะเอากับกับกูไหม เมิงเจอกูแน่ ผมก็เฉยๆ คือผมไม่ได้ไปทำอะไร ซักพักผมก็กลับออกมา
- 1 Nov 2015 ผมนอนไม่หลับทั้งคืนเลย ตื่นมาก็ไปที่บ้านบางใหญ่ ตะโกนเรียกเธอแต่เช้า เธอคงยังไม่ตื่น ผมคงเท้าแขนรั่วเธอแรงเกินไปจนรั่วกับประตูหลุดออกมา หรือลมพัดแรงเมื่อคืนก็ไม้รู้เหมือนกัน แล้วก็กลับออกมา ผมแวะถามพี่ รปภ กะเช้าเรื่องบ้านเช่าแก่ก็บอกว่าพอมีอยู่นะ ก็คุยดีไม่เหมือนกะดึกเธอคงโทรไปใส่ไฟผมไว้เยอะ ตกบ่ายเธอก็เลยโทรไปเล่าให้แม่ผมฟัง หาว่าผมประสาท แม่ผมก็เออออห่อหมกกับมันไป แหมเธอน่าจะไปขายประกันจริงๆ Keyword ประกันเว็บผมก็เข้าอยู่นะ โทรเสร็จมันก็ปิดเบอร์มือถือไปเหมือนเดิม แต่ที่ป้อมยามไม่มีเบอร์เหมือนมันจะเอาเบอร์ตนเองโทรไปหายามที่ป้อมเอง ผมก็เลยเขียนอธิบายไว้ด้านบนอย่างละเอียด ไปอ่านต่อเอาได้ ผมก็เลยมีแผ่นจะเช่าหรือไม่ก็ซื้อบ้านที่พฤกษา 37 อีกซักหลัง จะได้ลดภาระความรับผิดชอบของพี่ รปภ โดยผมกลายเป็นลูกบ้านแทนคนนอกไปแทน หรือผมจะไปซื้อคอนโดในเมืองแถวพระราม 9 ดี แต่ช่วงนี้เศรษกิจยังไม่ค่อยดีบ้านปัจจุบันที่ผ่อนอยู่ก็ยังไม่นิ่ง คงต้องรอไปก่อน ยังไงซะเธอก็ต้องออกไปทำงาน ช่วงนี่ให้มันใจชื้นไปก่อน ด้วยความสะใจผมกะจะขาย The Pleno แล้วไปซื้อ พฤกษา 37 ซะเลย แต่พี่ผมชอบบ้าน Pleno ก็เลยวางแผนกันใหม่ มันต้องให้เต็มที่กันไปข้าง
เธอโทรไปหาแม่ผมบอกผมเป็นประสาท คราวนี้ผมจะเล่าให้ฟัง ว่าทำไมผมต้องทำขนาดนี้ เรามาครบกันเพราะผมบังเอิญโชคดีจับได้ว่าแฟนคนก่อนมีชู้ เธอเข้ามาในชีวิตผมอย่างรวดเร็ว วันแรกคือ 31 Dec 2014 พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอว่าถูกผู้ชายมีเมียแล้วหลอก เธอเลยต้องเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัว พอรู้เธอก็เลิก ผมเทียบกับเรื่องของผม ณ เวลานั้นแล้วเราสองคนน่าจะเริ่มต้นความทรงจำดีๆด้วยกันได้ จึงเริ่มคบกัน ประเด็นนี้ตัดไปเพราะเรายอมรับซึงกันและกัน แต่สุดท้ายตอนหลังผมมารู้ว่าเธอไม่ได้เลิก เธอยอมรับสถานะนั้นเพราะเขาพาไปซื้อนู้นนี่นั้นให้ พาไปเที่ยวพาไปกิน ให้เงิน แต่นานๆมาที่มาแบบหลบๆซ่อนๆ แต่ชาวบ้านแถวนั้นรู้กันหมด จนเมียหลวงมาตามด่าหน้าบ้าน จนเธอบอกว่าเธอท้องแข่งกับทางเมียหลวงแต่เธอแท้งไปก่อน ต้องเอาเสื้อผ้าเด็กที่ซื้อเตรียมไว้ไปขายที่ตลาดนัด ผมรับได้นั้นมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้า ฟังแล้วทำให้ผมรักเธอมากยิ่งขึ้นอีกด้วยซ้ำ ประกอบกับเรื่องที่เธอทะเลาะกับแม่ตั้งแต่เด็กจนไม่พูดกันจนวันที่แม่เธอเสีย ผมต้องเล่า เล่าให้ละเอียดหน่อยพอให้จับใจความได้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะผมเองก็เสียสละตัวเอง เป็นไอ้หน้าโง่ หน้าด้าน เขาไปอยู่บ้านเธอ ที่เธออยู่กับสามีก่อนหน้ามาก่อน โดยไม่ได้แคร์สายตาชาวบ้าน ถ้าผมรู้ละเอียดก่อนหน้าขนาดนี้ผมก็ไม่เอาเหมือนกัน คบกันแล้วผมเพิ่งรู้ว่าเธอสูบบุหรี่ ผมรับได้ ผมมั่นใจจะทำให้เธอเลิกบุหรี่ให้ได้ รถผมยังซ่อมได้ทั้งคัน ไม่นับรอยสักที่ก้นที่ผมไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไร เลือกได้ผมก็จะไม่เริ่มตั้งแต่แรก แต่ผมก็เต็มใจที่จะสานต่อความรักเพื่อชดเฉยความผิดพลาดและประสบการณ์ที่ไม่ดีที่แต่ละคนเจอมา
แล้วผมละตกลงต้องมาเจอเหตุการณ์ซ้ำ 2 คือมันเล่งเห็นแล้วว่าเป้าหมายที่มันอ่อยๆไว้ทาง Line เริ่มจะชัดเจนแล้ว พอแน่ชัดมันก็หาทางบอกเลิกทันทีไม่ให้เราตั้งตัว ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันมาดีๆ ไปง้อก็ไม่คืนดี ผมเจ็บมากที่มันบอกว่าผมไม่มีอะไรเทียบกับผัวเก่ามันได้เลย ไม่มี ไม่มีไม่มีเลยจริงๆ ผมย้อนถามกลับไปแล้วที่ผ่านมาคืออะไร เธอบอกก็แค่ทำเอาใจไปอย่างนั้นเอง ซึ่งผมก็หลงว่ามันคือความรักมาตลอดจนถึงวันนี้ ต้องขออภัยที่ผมต้องเขียน ไม่งั้นมันก็จะไปหลอกคนอื่นให้รักด้วยวิธีการแบบนี้
สิ่งที่ผมให้ไม่ได้ในตอนนั้นคือเงิน แต่ผมมีเวลาให้ได้เเสมอ แต่เธอไม่ต้องการ เธอบอกอยู่กับผมแล้วเธอไม่มีความสุข ผมถามอะไรที่ว่าไม่มีความสุข เรื่อง Sex เรื่องเงิน นิสัยใจคอ ผมอธิบายได้นะ แต่ขออย่างเดียวอย่าหลอกว่ารักกัน มันไม่ตลก เพราะความรักครั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาสดๆมันทำให้ผมจริงจังมากในครั้งนี้ เธอบอกของเดิมที่เจอนะ 7 ผมนะ 4 ผมแมร่งนอยเลยนั่งวัดหาค่าเฉลี่ยอยู่หลายรอบกรู 6 นะเว้ย เลยบอกผมเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี ในพวกตุ๊ดกระเทยเข้าจะรู้ว่าผู้ชายนิสัยดีหมายถึงอะไร ตอนผมเจอรอยสักผมนี่ฝ่อเลยในใจคิดไปต่างๆนาๆ เจอบุหรี่อีกจบกัน กว่าจะทำใจได้ มันก็สำคัญนะ เรื่องนี่มันเสียความรู้สึกันได้นะ
พอเธอขอเลิกด้วยเหตุผลที่ทะเลาะกันเพียงแค่เธอห้ามพูดคำว่าซื้อ ผมรับไม่ได้จริงๆ เรื่องอื่นนั้นผมรับได้ด้วยความเต็มใจ แค่นี่ทำไมไม่ปรับความเข้าใจกัน จากนั้นเราก็ห่างกัน ผมเริ่มคืนสิ่งที่เธอต้องการซึ่งในตอนนั้นผมให้เธอไม่ได้นั้นคือเงิน เปรียบเทียบเป็นค่าที่เธอดูแลซักผ้ารีดผ้า ค่าของที่ซื้อเข้าบ้านร่วมกัน พร้อมกับทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เรากลับมาคืนดีกันให้ได้ ไปหา ขี่มอเตอร์วันละเป็นร้อยกิโลเมตร โดนด่าเสียๆ หายๆ โดนว่าเป็นประสาท หน้าด้าน ไร้ค่า ไม่มีปัญญาหาเมีย หน้าตัวเมีย ต้องลองถามคนที่ทำงานเธอว่าตอนเธอทะเลาะกับเพื่อนรวมงานเนียะแบบนั้นคนดีๆเขาก็ไม่ทำกันเหมือนกัน แต่ทั้งหมดที่ผมทนหน้าด้านติดตามเธอกลับมาเพราะคิดว่ามันคือความรัก แต่จริงๆมันไม่ใช่ และมันไม่ง่ายนะที่ผมจะยอมรับอะไรหลายๆอย่างที่ไม่สามารถอธิบายในนี้ได้ ก็สรุปว่าที่ผมตามอยู่จนถึงวันนี้ซึ่งคงจะเป็นวันสุดท้าย ที่ทำไปทั้งหมดไม่ได้ประสาท ไม่ได้บ้า ผมทำไปเพราะว่าผมรัก รักผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยให้ผมผ่านช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในชีวิตมาได้ พร้อมทั้งยังได้ย้อนความทรงจำในวัยเด็กกลับมา (มันแย่จริงๆนะยากที่จะอธิบาย ซื้อบ้านเพื่อเตรียมจะแต่งงาน วันโอนบ้านยังเป็นวันเกิดแฟนเลย แล้วมาจับได้ว่าแฟนมีชู้)