วิธี Calibrate ระบบเกียร์ Selespeed ที่ติดตั้งอยู่บนรถ Alfa Romeo 156 ระบบเกียร์ไฟฟ้าที่ใช้แรงดัน hydraulic ควบคุมการทำงานของเกียร์ธรรมดาอีกทีหนึ่ง มีความจำเป็นต้องทำการ Calibrate เพื่อ Learning ให้ระบบจำค่าจาก Sensors ต่างๆเพื่อควบคุมการทำงานของเกียร์ได้อย่างถูกต้อง
- You are here:
- Blog
- Automotive
- Alfa Romeo 156
ด้วยชุดซ่อมเบาะหนังด้วยตนเองที่ทำจากสารประกอบด้วย ที่สามารถป้ายลงไปเพื่อสร้างพื้นผิวทดแทดหนังเดิมที่ขาดไป ทำให้เราสามารถซ่อมเบาะหนังที่ถลอก ขาด หรือเป็นรูได้ด้วยตนเอง ในกรณีที่รูที่ขาดมีขนาดใหญ่มาก ก็ให้ใช้เศษผ้าทากาวซ้อนเอาไว้ด้านหลัง แล้วตกแต่งขอบให้เรียบร้อย ก่อนทำการซ่อมด้วยสารประกอบซ่อมหนัง หากสามารถผสมสีของสารประกอบให้ตรงกับสีของหนังได้ก็สามารถทำได้เลย แต่ถ้าไม่ตรงก็สามารถใช้สีย้อมหนังตกแต่งให้กลมกลืนเข้ากันได้ในภายหลัง
อาการก้านเปลี่ยนเกียร์ Shifter shaft ติดค้างทำให้ชุด Selespeed ไม่สามารถทำการเปลี่ยนเกียร์และกลับมาอยู่ในตำแหน่งเกียร์ N ได้ ทำให้สตา์ทเครื่องได้แต่เข้าเกียร์ไม่ได้ สามารถตรวจสอบได้ด้วยการดูน็อต 6mm ที่ล็อคก้าน Selector Shaft ของชุด Selespeed ที่ซ่อนอยู่หลังน็อต 8mm
Solenoid EV0 เป็น 1 ใน 5 Solenoids ของระบบ Selespeed ที่ทำงานปิดและเปิดควบคุมอัตราการไหลของน้ำมัน เพื่อควบคุมระยะก้านคลัชต์ให้ดันคลัชต์แทนเท้าของเรา มันจึงทำงานตลอดเวลาที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ ถ้า EV0 เสียก็คือมันจะไม่สามารถควบคุมอัตราการไหลของน้ำมันให้นิ่งได้ ก้านคลัชต์จะแกว่งไปมา การแกว่งนี้จะทำให้ระบบไม่สามารถควบคุมแรงดันน้ำมัน Selespeed ให้อยู่ระหว่าง 44-54 Bars ได้เนื่องจากน้ำมันจะไหลออกจากระบบไปอยู่ที่กระปุก คล้ายๆอาการตุ้มเสีย แต่จะเป็นตอนติดเครื่องยนต์แล้วเท่านั้น
คราวนี้มาถึงคิวเปลี่ยนผ้าหุ้มหลังคาภายใน เพราะตามอายุใช้งานฟองน้ำมันจะเสื่อมสภาพกรอบเป็นผง ทำให้ผ้าห้อยร่วงลง งานนี้ไม่ยาก แต่รื้อเยอะหน่อย ก็จะมีจุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือตอนสไลด์ถอยหลังเพื่อถอดล็อคคลิป 3 ตัวด้านหลังออกมาก กับตอนถอดคลิปล็อคที่ยึดม่านบังแดด นอกนั้นก็ถอดปกติตั้งแต่ หลอดไฟภายในหน้าหลัง ไฟม่านบังแดด หูจับ น็อตยึดเสาหน้า กลาง หลัง แล้วจึงนำหลังคาออกมาลอกผ้าของเดิมที่มีฟองน้ำออกให้หมด
น้ำมันเกียร์ Alfa Romeo 156 ตาม spec ระบุให้ใช้มาตรฐาน GL-4 เบอร์ 75W85 เวลาเปลี่ยนก็จะยากตอนคลายน็อตถ่านน้ำมันเกียร์ออก เพราะมันจะติดขอบของฝาเกียร์ ทำให้มีระยะช่องว่างเพียงแค่นิดเดียวไม่พอที่จะไขได้ด้วยเครื่องมือทั่วๆไป น็อตถ่ายเป็นน็อตหกเหลี่ยมตัวเมียขนาด 10mm เราก็ให้ประแจหกเหลี่ยมตัว L เบอร์ 10 ที่มีขายกันทั่วไป
คราวนี้มาถึงจุดที่โดดเด่นที่สุดอีกจุดในรถ Alfa Romeo 156 ก็คือ Infocenter display หรือจอแสดงผล ตรงกลางรถควบคุม บอกสถานะต่างๆ ที่ได้มานี่คือตัวอักษรแสดงผลมันจะเริ่มซีดจางแล้ว จับดูหน้าจอก็ร้อนมาก จนทำให้ฟิล์มเคลือบหน้าจอ LCD ละลายเลยทีเดียว ทำให้ดูไม่สวยงาม เลยต้องทำการรื้ออกมาตรวจสอบ การรื้อก็ออกแบบมาดี ไขน็อตหกเหลี่ยม 2 ตัวด้านหน้า แล้วดึงออกมาได้เลย
คราวนี้มาถึงการซ่อมช่องแอร์ ของ Alfa Romeo 156 กันบ้าง ดูเหมือนจะออกแบบมาให้ลมไม่ค่อยปะทะตัวผู้โดยสาร แต่อาศัยการเปรียบอุณหภูมิจากเซนเซอร์ทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ได้อุณหภูิมตามที่กำนหดเอาไว้ เลยทำให้รู้สึกเย็นไม่ทันใจ ช่องแอร์ตอนได้มาเลยเสียหายบ้างเล็กน้อย แต่การออกแบบมาเป็นฝาปิดบานเกร็ดด้านนอกที่มีก้านเชื่อมโยงกับลิ้นปิดเปิดด้านใน ซึ่งสามารถถอดออกจากกันได้ทุกชิ้นส่วน
อันนี้มาถึงอีกหนึ่งอาการฮิตทั่วโลกครับ กลิ่นน้ำมันในห้องโดยสาร สาเหตุจากปั๊มน้ำมันรั่วครับ โดยจะรั่วที่บริเวณฝาด้านบนที่เป็นวาล์วควบคุมอยู่ โดยจะซึ่มออกมาจนล้นช่อง 4 ช่องในวงกลมบนฝาด้านบนเลย ปั๊มน้ำมันก็ออกแบบมาค่อนข้างถอดง่ายครับ อยู่ใต้เบาะผู้โดยสาร ทำการถอดเบาะออก แล้วก็เอาไม้ตอกขอบฝาปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงออก ก็ได้แล้ว แต่ถ้ารู้ว่ารั่วตรงบริเวณนั้นแล้ว เราก็แค่ปลดสายท่อน้ำมันออก ระวังตอนปลดจะยังมีแรงดันอยู่นะครับ
หลังจากแก้ไฟภายในห้องโดยสารไม่ติดเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาถึงไฟส่องสว่างภายในกระโปรงท้ายรถ (G40) กันบ้าง โดยจากวงจรมันจะถูกควบคุมจากกล่องควบคุม และไมโครสวิตช์ (I11)ที่ติดอยู่ตรงกลอนฝากรโปรงท้าย พอเราเปิดฝากระโปรงท้าย ไมโครสวิตช์ปิดวงจร ไฟก็จะติดสว่างโดยมีกล่องควบคุมทำการหน่วงเวลาเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วมันจะดับเองเพื่อป้องกัน Batt หมด แต่ทีเจอคือภายไฟขาดในช่วงรอยต่อท่อยางระหว่างฝากระโปร่งกับภายในกระโปรงท้าย เลยต้องไล่สายไฟแล้วทำการบัดกรีใหม่
พอดีเพิ่งถอย Alfa Romeo 156 มา เจออาการแรกคือไฟห้องผู้โดยสารด้านหลังไม่ติด แกะหลอดออกมาดูก็ไม่ขาด แต่ตอนแกะนี่ต้องเอาไขขวงแหย่ด้านที่เป็น Switch ถึงจะออก ไม่เหมือนกับที่เขียนในคู่มือติดรถ เล่นซะเพดานเละเลย ก่อนอื่นต้องไป Download คู่มือทางวิศวกรรมเก็บเอาไว้ดูก่อน โดยจะเป็นไฟล์ ISO มา เพื่อเอาไว้ไปเขียนลง CD หรือจะใช้โปรแกรม Visual CD/DVD ROM อย่าง MagicISO มาติดตั้งแทนก็ได้แล้ว Mount ไปยัง ISO ไฟล์ที่อยู่บนเครื่อง