หลังจากถอดโคมไฟหน้าออกมาพ่นเป็นโคมดำกันแล้ว คราวนี้เราจะมาถอดไฟท้ายตาเพชรแปลงให้เป็นไฟ LED แบบครบเซ็ตกัน ทั้งไฟหรี่ ไฟเบรค ไฟเลี้ยว รวมไปถึงไฟเบรคดวงที่   3 ด้วยเลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยให้ความร้อนบริเวณตัวโคมไฟลดลงกว่าเดิมเป็นอย่างมาก เมื่อเที่ยบกับตอนที่เป็นหลอดไส้แบบของเดิม อีกทั้งตัวโคมไฟเองก็จะไม่กรอบหรือแตกได้ง่ายอีกด้วย โดยวงจรออกแบบให้หลอด LED กินกระแสแบบคงที่จากการขับกระแสผ่านตัวทรานซิสเตอร์นั้นเอง แต่ต้องหา Dummy Load Resistor หรืออาจต่อขา 1 สายสี WHT-GRN ของกล่องวงจรตรวจจับไฟเบรคขาด ฝั่งที่มี Reed Switch 2 ตัว วงจรก็จะทำงานได้เป็นปกติ

อันนี้เป็น Project อีกตัวที่น่าสนใจมาก หลังจากดู Scangauge แล้วอยากได้มั่งเลย แต่ไม่ Support รถที่เป็น ECU แบบ OBD I แต่เว็บเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ใช้ Google Translate แปลอ่านเอาได้ โดยมี Project น่าสนใจอยู่ 2 ตัว คือ SuperMID-M1  ที่เอาไว้บอกอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจับเอาสัญญาณ Pulse หัวฉีด กับ Speed มาทำการคำนวณ ใช้ MCU AVR ในการ พัฒนา และแจก Source code สำหรับ Burn Program กันฟรี แต่ถ้าจะ Modifier ให้เข้ากับตาเพชรนี่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า เพราะต้องคำนวณปริมาณน้ำมันในถังใหม่ กับขนาดหัวฉีดอีก

4thGen Honda Accord ค่อนข้างจะมีระบบสูญญากาศเข้ามาเกี่ยวข้องในการควบคุมเครื่องยนต์ค่อนข้างเยอะ ถ้าหากเกิดการรั่วหรือหายไป ก็อาจทำให้ระบบการทำงานผิดเพี้ยนไปได้ รอบเดินเบาไม่นิ่ง อัตราเร่งไม่เรียบ ทีนี่เราจะมาไล่ดูตัว Sensor ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกับระบบสุญญากาศของแอคคอร์ดตาเพชรกัน

หลังจากที่ดูวิธีถอดไฟหน้ามาล้างมานานหลายปี จนหลังๆกลายเป็นถอดมาทำโคมดำกันแทน ในที่สุดก็ได้ลงมือทำบ้างซะที แต่ก่อนนึกว่าต้องใช้เตาอบเท่านั้นถึงจะถอดออกมาได้ เคยคิดจะซื้อมาถอดทำอยู่พักหนึ่งเหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีคนทำเท่าไร แต่จริงๆแล้วเราใช้แค่ไดร์เป่าผมกับไขควงอีกอันก็สามารถถอดออกมาทำการพ่นสีได้เช่นกัน แต่ก่อนอื่นก็ต้องถอดกันชนหน้าออกมาให้ได้ก่อน (สำหรับ Honda Accord ตาเพชรนะ) แต่ถ้าเป็นรถรุ่นอื่นๆบางรุ่นก็สามารถไขเอาไฟหน้าออกมาได้เลยแบบไม่ต้องถอดกันชน แต่ไม่รู้ว่ารถรุ่นใหม่ๆใช้กาวแบบเดียวกันหรือเปล่า

ล่าสุดฝาถังน้ำมันของไอ้เทาผมมันเปิดไม่ออก พอตอนเราดึงกลอนจากด้านในรถแล้ว ฝามันก็ไม่ยอมเปิด เลยตั้งใจจะเปลี่ยนใหม่ทั้งอัน แต่พอไปซื้ออะไหล่ที่ร้าน เขาบอกว่ามันจะมี Clip อยู่อันหนึ่งเอาไว้ให้มันเด็งตอนเราเปิดฝา เขาบอกมันชอบหายบ่อยๆ ผมเลยลองซื้อมาเปลี่ยนดู อันละ 56 บาท พอมาพิจารณาดูปรากฎว่า ก้านเหล็กที่มันจะทำหน้าที่ดันฝาเอาไว้มันหักไปตามอายุการใช้งาน พอเราดันฝาปิดไป เวลาที่จะเปิดใหม่มันเลยไม่ยอมเด้งออกมาเอง พอเปลี่ยนอันใหม่เขาไปมันก็จะมีก้านเหล็กที่เห็นในรูปยื่นออกมาดันเอาไว้ แหมเล่นซะงง

ปกติรถ Accord90 สมัยนั้นจะให้เบรคหลังเป็นแบบดรัมเบรคมา ต่อมา Accord ปี 94 ขึ้นไปเบรคหลังถึงจะเป็นแบบดิสเบรค โดยระบบจะมี Valve เอาไว้แยกน้ำมันเบรคแบบไขว้ ไปยังล้อหน้าซ้าย-หลังขวา กับหน้าขวาหลังซ้าย เพื่อป้องกันระบบเบรคผิดพลาดได้ในระดับหนึ่ง คือประมาณว่าถ้าไม่แยกไขว้แบบนี้ เกิดเบรคข้างใดข้างหนึ่งเสียไป พอเบรคปุ๊บรถก็จะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่ถ้าไขว้แบบนั้น อย่างน้อยก็ยังเบรคได้ทั้งสองข้าง โดย Accord ปี 90 จะมีขนาด Valve 30/30 ส่วน Accord 94 จะมี Valve ขนาด 40/40 ทีนี้พอเราเอา Accord90 มาแปลงดิสเบรคหลัง ก็เลยเกิดประเด็นขึ้นมาว่าต้องเปลี่ยน Valve ตัวนี้ตามหรือไม่

ขั้นตอนการแปลงรถยนต์ที่ใช้น้ำมันให้สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าแทนได้ โดยทำการใช้ Advanced DC Motor ต่อเข้าแทน Crank Shaft กับ flywheel โดยมีตัวแปลงเป็นบล๊อคประกบมียางกันอยู่เชื่อมต่อเข้ากับแกนกลางของเกียร์

ส่วนด้านล่างผู้ประดิษฐ์อีกคนใช้ รถ Honda โดยมีวงจรควบคุมการประจุแบตเตอรี่ และมีรายละเอียดในการทำ รวมทั้งวงจร ให้ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Blog  http://hr-ev.blogspot.com/

ลักษณะการทำงานก็ประมารว่า Idle speed ไม่มี หม้อน้ำไม่ต้อง ท่อไอเสีย หัวเทียน จานจ่าย ก็ไม่ต้องใช้ โดยเพิ่มคันเร่งอิเล็กทรอนิกส์เข้าไปแทน กับระบบการชาร์จประจุไฟ จากนั้นคงต้องมีการgrbj, Sensor วัดความเร็วรอบของมอเตอร์ไฟฟ้า และการป้อนสัญญาณให้ ECU ใหม่ ส่วนด้านล่างเป็นอีกแนวทางหนึ่ง คือนำตัวมอเตอร์ไปใส่ไว้ที่ล้อรถเลยจากนั้นควบคุมพลังงานไฟฟ้าให้เกิดการผลักกันกับวงแม่เหล็กถาวร จึงทำให้เกิดการเลื่อนถไหลไปของล้อ เหมือนหลักการของมอเตอร์ไฟฟ้าทั่วไปนั้นเอง

หลังจากเริ่มใช้รถมาตั้งแต่ปี 2003 รู้สึกว่ามันค่อนข้างจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาค่อนข้างสูง แต่จากที่ใช้งานมา ส่วนใหญ่จะเกิดมาจากการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ประกอบกับอู่หรือช่างเองขาดความชำนาญ ผมเคยลองเข้ามาหลายอู่แล้ว ส่วนศูนย์บริการนี่ผมให้เครดิตเข้าครั้งแรกยังไม่ได้เรื่อง เลยอยากให้คนที่กำลังคิดจะซื้อรถ ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกดูรถมือสอง หรือรถยนต์ใช้แล้ว คงมีคนเขียนเรื่องนี้เยอะแล้ว แต่ไม่เป็นไรเอาประสบการ์ช่วงสั้นๆของผม 7 ปี ไปเพิ่มเติมเพื่อจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย แต่ก่อนอื่นเราต้องขอดูหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับตัวรถก่อน ถ้ามีประวัติการซ่อมด้วยก็ดี

คราวนี้เราจะมาเพิ่มสวิตช์เซ้นทรัลล๊อคที่ฝั่งประตูคนขับ โดยปกติตาเพชรบ้านเรายุคนั้นจะไม่ได้ติดเพิ่มมาให้ ไม่รู้ทำไมไอ้สวิตช์สามขาตอนนั้นมันแพงมากหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ตัวนอกส่วนใหญ่ก็จะมีติดตั้งมาให้จากโรงงานเลย สงสัยพี่ยุ่นอยากให้คนเอเชียเราออกกำลังกันเยอะๆเนอะ ไอ้ครั้นจะไปซื้อสวิตช์ 2 ทาง 3 ขา มาติดเองก็กลัวไม่เท่ห์ เลยไปหาซื้อของรุ่นมันเลยจะดีกว่า แต่การต่อเราจะต่อแบบเพิ่มเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรถเลย ไม่ได้ทำงานผ่านกล่องกันขโมยอีกที แต่ว่ายังไงก็ต้องซื้อ Solenoid ตัวละร้อยกว่าบาท เพิ่มหนึ่งตัวเพราะประตูฝั่งคนขับของเดิมตัว Actuator มันจะปลดล็อคด้วยไฟฟ้าไม่ได้

คราวนี้มาดูวิธีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ของตาเพชรกัน น้ำมันเกียร์ หรือ Automatic transmission fluid (ATF) จะเปลี่ยนทุกๆ 30,000 ไมล์ หรือประมาณ 45,000 กิโลเมตรก็น่าจะพอ แต่ถ้ายังขับไม่ถึงระยะที่กำหนดก็ให้เปลี่ยนเมื่อถึงระยะเวลา 2 ปี ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ต้องใช้ก็ประมาณ 2.5 ลิตร แต่คราวนี้เราจะลองใช้ Automatic transmission Treatment ของ Karshine เพิ่มเข้าไป 250ml(380 บาท) โดยใช้น้ำมันเกียร์ ATF ของ Honda 2 ลิตร ราคาลิตรละ 180 บาท ส่วนอุปกรณ์กับวิธีการก็ไม่มีอะไรมาก อุปกรณ์ก็มีอย่างที่เห็นในรูปด้านล่าง

คราวนี้เราจะมาจับวงจรเครื่องขยายเสียงที่ใช้ไฟ DC 12 Volt เพื่อนำไปใช้ในรถกัน รวมกับตู้เบสเสียงต่ำ แบบที่ติดตั้งอยู่ภายในรถใต้เบาะที่นั้ง รวมกับวงจรขยายสัญญาณเสียงลำโพงคู่หลัง โดยออกแบบให้อยู่ใน Case ขนาด 1 Din ที่รวม 5 Band EQ ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยนำสัญญาณเอาพุทจาก Front ของเดิมมาใส่เข้าไปได้เลย ติดตั้งกันได้ง่ายๆ ก็ต้องออกแบบลายวงจรกันหน่อย ส่วน Subwoofer Box ถ้าอย่างแรงหน่อยก็ติดมัน 2 ตู้ของเบาะคู่หน้าเลย

ไฟเพดานห้องโดยสารแบบ LED ของ Honda Accord ตาเพชร ออกแบบมาให้ใส่เข้ากับของเดิมโดยที่ไม่ต้องดัดแปลงใดๆทั้งสิน หลอดไม่ร้อนแบบหลอดไส้ของเดิม มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น  LED สว่างเต็มที่ สร้างได้ง่ายๆใครๆก็ทำได้