Fuel Booster, Fuel Additive หรือสารเพิ่มประสิทธิภาพน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซิน ที่จะช่วยให้ได้ระยะทางการขับมากขึ้น และลดเขม่าที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ได้ โดยสารที่ว่านี้ประกอบขึ้นจากสาร 3 ชนิดคือ Acetone, Xylene, GP-7 โดยต้องทำการผสมรวมกันในอัตราส่วนที่พอเหมาะ แล้วเติมเพิ่มเข้าไปในถังน้ำมันเชื้อเพลิงในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน สามารถใช้ได้ทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน และมีผลดีต่อรถที่ใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของ Ethanol
- คุณอยู่ที่:
- บทความ
- ยานยนต์
คราวนี้มาลองทำวงจรกรองความถี่สัญญาณรบกวนไฟกระแสตรงสำหรับใช้ในรถกัน วงจรก็ไม่มีอะไรมาก C ล้วนๆ เพราะว่าเนื่องจากในรถยนต์ตอนที่เครื่องติดอยู่ มันจะต้องมีการประจุไฟเข้าแบตเตอรี่ โดยการแปลงไฟจากตัว Alternator ซึ่งเป็นไฟ AC มาเป็นไฟ DC จึงทำให้เกิดสัญญาณรบกวนที่มีความถี่ต่างๆกันเกิดขึ้นมาหลายความถี่ มาพร้อมกับไฟตรง 13.8 Volt
Vehicle Speed Sensor หรือที่เรียกย่อๆว่า VSS ของ Honda ก็คือตัวส่งสัญญาณความเร็วขณะที่รถเราวิ่งอยู่ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนหน้า แบบรถรุ่นเก่าๆเลย จะใช้เป็น Speed Cable แทน (แต่จริงๆแล้ว Accord ตาเพชรนี่ก็เก่ามากแล้วนะ) แต่เมื่อ 15 ปี สำหรับตัวนอก แล้วมันก็มี Function ทุกอย่างๆที่รถปัจจุบันควรจะมี แต่ที่ตัดออกไปเพราะหากใส่หมดทุก option คงขายในประเทศไทยไม่ไหวเพราะค่าเงินตอนนั้นถูกมากมาย ดูแล้วคล้ายๆเหมือนเราจะล้าหลังญี่ปุ่่นอยู่ซัก 15 ปี รวมเวลาพัฒนารถด้วยแล้วก็น่าจะเกิน 20 ปีแน่เลย ไม่นับเมกานะเนียะ เพราะจนปัจจุับัน ก็ยังไม่มีรถยี่ห้อไทยซะที มีแต่โรงงานเกลื่อนเมือง เอามาว่ากันต่อ VSS จะส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆด้วย Square Pluse 5 V โดยส่งไปยัง หน้าปัดเรือนไมล์, ส่งไป ECU, ส่งไป TCU (กล่องเกียร์), และส่งไปยังระบบ Cruise Control
หลังจากที่เพิ่งซ่อม Civic 3D ที่หัวเทียนหัว 1 ขาดคาเบ้าหัวเทียนไป ทำให้ต้องรื้อฝาสูบออกมาเปลี่ยน เลยต้องเปลี่ยนอย่างอื่นไปที่เดียวกันเลย ก็มาถึงคราว accord บางปรากฎว่า หัวเทียนสูบที่ 2 ไขออกยากมาก คือแน่นมาก จนเกลียวทองเหลืองของหัวเทียนรูดติดไปอยู่กับเครื่องหมดเลย แต่ก็ยังพอใช้ได้อยู่ แต่พอดีผมต้องหรือมาเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบอยู่แล้วด้วยเลย จะยกให้ร้านเดียวกับที่ทำ Civic 3D กะว่าให้ที่ร้านดร๊าฟไล่เกลียวให้ใหม่หน่อย ร้านอยู่แถวๆบางพูน ไปถึงยกลงช่างที่ร้านก็ลองหาดอกดร๊าฟมาดร๊าฟดู ซักพักไม่พูดจาไรเลย ก็เอาเข้าไปวางบนแท่นเครื่องกลึงข้างใน จัดแจงถอดน็อตยึด พวก Camshaft ยึดพวกราวลิ้นออก น็อตพวกนี้มันมีเยอะ เวลาจะถอดต้องค่อยๆไขออกตัวละหน่อย แบบกระจายแรงถ้าไข พรวดพราด ออกไปที่เดียวเลยที่ละตัว ไอ้ตัวที่เหลืออยู่มันจะไขยาก แล้วสุดท้ายมันก็ไขน็อตผมขาดไปหนึ่งตัว มันบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวช่างเขาหาใส่ให้เอง มันไม่รับผิดชอบที่มันทำน็อตผมขาด ผมบอกมันทำไมไม่ค่อยๆไข ไล่ไปเรื่อยๆ ช่างมันบอกไม่เกี่ยว
หลังจากที่เขียนบทความเกี่ยวกับการปรับตั้งรอบเดินเบาไปเมื่อประมาณ 2007 จนคน copy รูป copy ข้อความไปลงเว็บอื่นกัน แบบไม่ให้เครดิตกันเลย มาคราวนี้เราจะมาทำความรู้จัก EACV ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากดึง connector ออก หมุน Screw ดับเครื่อง ถอดฟิวส์ ที่นี้เราจะมาดูการทำงานภายในตัว EACV กันเลย อันดับแรกต้องดู Drawing ก่อน ตามรูปด้านล่างน่าจะใช้ Accord ปี 1990 การทำงานของ EACV ก็จะทำการปิดๆเปิดตามสัญญาณจังหวะที่ส่งมาจาก ECU ถ้าดูในกล่องก็ Connector Pin A9 โดยจะส่ง Ground มาแบบเป็น Pluse ควบคุมการเปิดปิดของ Valve ดูกราฟเอาดีกว่า อธิบายแล้วไม่ค่อยเห็นภาพ
วันนี้เราจะมาดูแนวทางในการจับ PC มายัดลงไปในรถยนต์กัน เพื่อที่เราจะได้ ดูหนัง ฟังเพลง หรือจะเชื่อมต่อกับ GPS, Bluetooth หรือ Camera ก็ยังได้ ประมาณว่าอะไรที่ทำได้ใน PC ก็ทำได้ในรถเหมือนกัน จะลง Windows Linux ก็แล้วแต่ความถนัด แต่หัวใจสำคัญของ Project นี้ที่แตกต่างก็ต้องเป็น car management program หรือ CarPC Front-end Software ที่คอยจัดการการใช้งานในรูปแบบต่างๆตามที่กล่าวมาข้างต้น อย่างเ่ช่น Centrafuse แล้วทีนี่เราต้องเตรียมอะไรกันบ้างละ ไปดูกันเลยดีกว่า
Thermostat หรือที่เรารียกกันทั่วไปว่าวาล์วน้ำ จะติดตั้งอยู่ในตัวเรือนวาล์วน้ำ (Thermostat housing) โดยมี Coolant Temp SW A ติดตั้งร่วมอยู่ด้วยกัน เมื่อใช้งานไปนานๆ วาล์วน้ำอาจเริ่มเสื่อมทำให้วาล์วไม่เปิดตามอุณหภูมิที่กำหนดไว้ คือที่ 78°C น้ำหล่อเย็นจึงไม่สามารถวนเข้าออกระบายความร้อนให้เครื่องบยต์ได้ ทำให้เกิดการอั้นอยู่ที่บริเวณนี้ เครื่องยนต์จึงเกิดการร้อนจัดขึ้นได้ เวลาถอดเปลี่ยนให้ทำการตรวจสอบแป๊บน้ำเข้าเครื่องด้านหลังไปด้วยเลยพร้อมกัน เพราะโดยส่วนใหญ่จะพบว่ามีการผุที่ปลายท่อเป็นประจำ
พอดีเพิ่งได้ลองเปลี่ยน ฝาหม้อน้ำไปซักพัก แต่รู้สึกว่าน้ำมันคายออกมาพักเยอะเกินไป ฝาเดิมที่ติดมาตอนแรกๆก็ใช้ 0.9 Bar แต่ตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเปลี่ยนรู้สึกมันจะอ่อนไปหน่อย (หรือว่าหม้อน้ำมันจะเริ่มตันแล้ววะ) เลยดูละเอียดอีกทีใน Manual ระบุไว้ว่า 14-18 PSI หรือ 93-123 kPa แต่ทั่วไปที่ขายกันอยู่มันจะเป็นหน่วย Bar โดย
หลังจากลอง HHO cell แบบเปียกไปแล้ว ทีนี้เราจะมาลองทำแบบ Dry cell บาง หลักการคราวๆของมันก็จะทำการแยก ส่วนที่เป็นตัวนำ ในที่นี้ก็คือ stainless steel ออกมาไว้ตากหากจาก Electrolyte ซึ่งก็คือ น้ำกลันผสม baking soda นั้นเอง จากนั้นเราก็จะปล่อยให้ Electrolyte วิ่งผ่านขดลวด หรือแผ่น stainless steel ที่เราแยกกออกมาก แล้ววนกลับเข้าไปในโหลหรือภาชนะที่กักเก็บน Electrolyte ไว้ ซึ่งมันก็จะนำพา HHO gas ออกไปด้วย ซึ่งวิธีนี้จะลดลความยุ่งยากในการหาขวดโหล ความร้อน แล้วก็การติดตั้ง ร่วมทั้งการดูแลรักษาลงไปได้อย่างมาก
ทีนี้เราก็จะมาเริ่มทำตัวที่จะ Generate gas HHO ออกมากัน หรือที่เรียกว่า Electrolyzer ตามที่ได้เห็นในรูป โดยมันจะทำการแยกเอา HHO ออกมาจากน้ำให้เราโดยใช้พลังงานจากไฟกระแสตรง น้ำที่ว่านี้ก็เป็นน้ำกลั่นที่ผสมกับ baking soda ในปริมาณที่เหมาะสม ขั้นแรกต้องไปเตรียมตัวหาอุปกรณ์ให้ครบก่อน ที่สำคัญก็คือขวดโหลขนาดตามแบบที่กำหนด ยังมี HHO Generator ในแบบอื่นๆให้ลองทำด้วยนะครับ โดยจะแตกต่างกันที่ตัว Electrolyzer ที่ออกแบบมา แต่เอาแบบเป็นเส้นลวดแบบนี้ก่อน
หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานน้ำไปแล้ว ลองทำ HHO Generator ไปแล้ว Map Sensor Enhancer ก็ทำไปแล้ว ที่นี้ก็จะเอามาทำการติดตั้งเพื่อใช้งานจริงกัน โดยอันดับแรกต้องหาที่ๆเหมาะสมที่จะทำการวางโหลก่อน ปกติตามหลักการแล้วก็จะหาจุดที่เย็นที่สุดภายในห้องเครื่อง โดยการใช้ Thermometerแบบไม่ต้องสัมผัสกับพื้นผิว โดยใช้ลำแสง Infrared ชี้ไปยังตำแหน่งต่างๆภายในห้องเครื่อง แต่ห้องเครื่องตาเพชรมันแน่นเอียดไปหมดเลย ว่างอยู่แต่ตรงหลังพัดลมหม้อน้ำนี่อะดิ เลยต้องออกแบบตระกร้าเอาไว้ใส่โหล เพราะใช้สายรัดไม่ได้ แต่เดี๋ยวต้องเอา DS1820 มาจับดูว่าอุณหภูมิเท่าไร ไม่งั้นมันจะ Thermal Runaway ได้